เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีน้ำ 77% ของความจุ เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 500 เป็น 650 ลบ.ม./วินาที ส่งผลระดับน้ำแม่น้ำป่าสักสูงขึ้น 1.5–1.8 เมตร
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์น้ำเต็ม 77%
สถานการณ์ล่าสุด (22 ก.ย. 68) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 744 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 77% ของความจุ ขณะที่ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กรมชลประทานต้องบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด
แผนปรับเพิ่มการระบายน้ำ
เพื่อควบคุมระดับน้ำในเขื่อนให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม กรมชลประทานจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำ จาก 500 ลบ.ม./วินาที เป็น 650 ลบ.ม./วินาที โดยปรับเพิ่มวันละ 50 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักเพิ่มขึ้นราว 1.50 – 1.80 เมตร
พื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ
การปรับเพิ่มการระบายน้ำอาจกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง ได้แก่
- ตลาดน้ำต้นตาล ต.ต้นตาล อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
- ต.แสลงพัน อ.วังม่วง จ.สระบุรี
- ต.แก่งเสือเต้น และ ต.หินซ้อน อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
- ชุมชนวัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
ประชาชนในพื้นที่ควรเฝ้าระวังและติดตามประกาศจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำอีก จะมีการแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการ
สรุป
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำสูงเกิน 70% ของความจุ จึงต้องเร่งระบายน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 68 เป็นต้นไป ส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักสูงขึ้น และอาจกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำใน จ.สระบุรี ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา จึงควรเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด