วันนี้ (2 ธ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ภาพรวมของ ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีหมอกปกคลุมในตอนเช้า แม้ว่ามวลอากาศเย็นที่ปกคลุมอยู่จะมีกำลังอ่อนลง แต่บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวอยู่ ประชาชนจึงควรดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระมัดระวังอันตรายจาก อัคคีภัย ที่อาจเกิดขึ้นจากอากาศแห้งด้วย
ภาพรวมสภาพอากาศและผลกระทบที่ต้องระวัง
สำหรับภาพรวมสภาพอากาศในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ มีประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาในแต่ละภูมิภาค คือ ทั่วประเทศอุณหภูมิสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคกลางและกรุงเทพฯ ที่อากาศจะอุ่นขึ้นเล็กน้อย
- ภาคใต้: มีฝนน้อยลง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันสูงประมาณ 1 เมตร แต่บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล: อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21-23 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-34 องศาเซลเซียส
- ฝุ่น PM 2.5: ประเทศไทยตอนบนมีฝุ่นละออง/หมอกควันสะสมเพิ่มขึ้นเป็น ระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง ซึ่งสอดคล้องกับรายงานที่ว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ อยู่ในระดับวิกฤต (สีส้ม)
พยากรณ์อากาศรายภาคโดยละเอียด (อุณหภูมิต่ำสุด)
อุณหภูมิในแต่ละภูมิภาคมีแนวโน้มสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงความเย็นถึงหนาวไว้ โดยเฉพาะบริเวณยอดดอย/ยอดภู:
- ภาคเหนือ: อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาฯ (ยอดดอย 4-10 องศาฯ)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาฯ (ยอดภู 8-14 องศาฯ)
- ภาคกลาง: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาฯ
- ภาคตะวันออก: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาฯ
- ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก/ตะวันตก): อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาฯ
สรุป
วันนี้อุณหภูมิในประเทศไทยตอนบนสูงขึ้น แต่ยังคงอากาศเย็นถึงหนาว และมีหมอกในตอนเช้า โดยกรุงเทพฯ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21 องศาฯ ขณะที่ภาคใต้มีฝนลดลง สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษคือการสะสมของ ฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้น