Toyota เดินหน้าบุกตลาด SUV ที่ประเทศจีนอย่างดุดัน ล่าสุดได้เปิดตัวรถยนต์ยอดนิยมรุ่นปรับปรุงใหม่ 2 รุ่นรวด ภายใต้กลยุทธ์ “Two-car Strategy” จากสองพันธมิตรของค่าย นั่นคือ Toyota RAV4 (ผลิตโดย FAW-Toyota) และ Toyota Wildlander (ผลิตโดย GAC-Toyota) โดยทั้งคู่ถูกปรับปรุงสเปกและดีไซน์เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงเรื่องเทคโนโลยี ขุมพลัง และราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเวอร์ชัน Global ทั่วไป
Toyota RAV4 vs Wildlander สองสไตล์ที่แตกต่างกัน
แม้จะใช้พื้นฐานเดียวกัน แต่ RAV4 และ Wildlander เวอร์ชันจีนกลับมีคาแรคเตอร์ภายนอกที่ชัดเจน:
- GAC-Toyota Wildlander: มาในลุคที่ดูคลีนและทันสมัยกว่า โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารังผึ้งสีเดียวกับตัวรถ และไฟหน้าทรง Hammerhead คล้ายกับ RAV4 เวอร์ชันสากลที่เราคุ้นเคย
- FAW-Toyota RAV4: เน้นความดุดันในสไตล์ Off-road มากกว่า โดยหยิบยืมดีไซน์กันชนหน้ามาจากรุ่น Adventure ในตลาดโลก ให้ภาพลักษณ์ที่บึกบึน
มิติตัวถังของทั้งคู่จะคล้ายกัน โดยใช้ล้ออัลลอยขนาด 18 และ 20 นิ้ว ต่างกันที่ RAV4 จะมีความยาวตัวถังมากกว่า Wildlander เล็กน้อยเพราะการดีไซน์กันชนที่แตกต่างกัน
ภายใน อัปเกรด Tech สุดล้ำ หน้าจอใหญ่ยักษ์
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดที่ทำให้เวอร์ชันจีนฉีกหนีจากเวอร์ชัน Global คือ “งานภายใน” ที่เน้นเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเอาใจตลาดแดนมังกร:
- หน้าจอกลางยักษ์: เปลี่ยนมาใช้หน้าจอสัมผัสแบบลอยตัวขนาดมหึมา 15.6 นิ้ว (ใหญ่กว่าเวอร์ชัน Global ที่ใช้ขนาด 10.5 หรือ 12.9 นิ้ว) พร้อมระบบปฏิบัติการสำหรับจีนโดยเฉพาะ
- มาตรวัดและ HUD: มีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8.8 นิ้ว และออปชันเสริม Head-up Display (HUD) ขนาดใหญ่ถึง 26.4 นิ้ว
- ออปชันจัดเต็ม: จัดเต็มด้วยเบาะหนัง Semi-aniline พร้อมระบบอุ่นและระบายอากาศ, หลังคา Panoramic Sunroof, ไฟ Ambient Light 64 สี และระบบจดจำใบหน้า (Facial Recognition)
ขุมพลังและราคา Toyota RAV4
RAV4 และ Wildlander เวอร์ชันจีนสร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA-K โดยยังมีเครื่องยนต์สันดาปภายในให้เลือก ควบคู่ไปกับขุมพลังไฮบริด:
- เบนซิน 2.0 ลิตร: 169 แรงม้า
- ไฮบริด 2.0 ลิตร (HEV): 193 แรงม้า
- ไฮบริด 2.5 ลิตร E-Four (AWD): 236 แรงม้า (ตัวท็อปขับเคลื่อนสี่ล้อ)
สรุป: สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือราคาจำหน่าย โดย GAC-Toyota Wildlander เปิดราคา Toyota RAV4 เริ่มต้นที่ 169,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 815,000 บาท เท่านั้น ซึ่งถือว่าทำราคาได้ดึงดูดใจกว่าเวอร์ชันที่วางขายในตลาดโลกอย่างสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากการผลิตในประเทศและการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์จีน
