ค่าเงินบาทวันนี้ เคลื่อนไหวในกรอบ $32.35-32.60$ บาทต่อดอลลาร์ ตามการประเมินของกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งมองว่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากปัจจัยภายนอก การเปลี่ยนแปลงหลักๆ มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค
ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ผลกระทบจากรายงานประชุม FOMC
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง มาจากการรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC ในเดือนตุลาคม ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ชี้ไปในทิศทางที่ว่ากรรมการหลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่าโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนั้นมีน้อยลง ส่งผลให้:
- ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar Index) ปรับตัวแข็งค่าขึ้น
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (US Treasury Yields) ปรับตัวสูงขึ้นตาม
- ตลาดการเงินมองว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยสูงไว้ต่อไปอีกระยะ
ภาพรวมเศรษฐกิจและค่าเงินโลก
นอกจากปัจจัยของสหรัฐฯ แล้ว สถานการณ์การค้าและค่าเงินอื่นๆ ก็เป็นสิ่งที่น่าจับตามองเช่นกัน
- สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลดลง: มูลค่านำเข้าของสหรัฐฯ ลดลง $5.1\%$ ในขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้การขาดดุลการค้าโดยรวมลดลง
- เงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่อง: ค่าเงินเยนญี่ปุ่นยังคงอ่อนค่า โดยทะลุระดับ $157$ เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งทำให้ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงค่าเงินนั้นมีมากขึ้น
สถานการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวของ ค่าเงินบาทวันนี้ ยังคงผันผวนและต้องติดตามปัจจัยด้านนโยบายการเงินของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดต่อไป
สรุป
ค่าเงินบาทวันนี้ อ่อนค่าลงเล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังรายงานการประชุม FOMC เดือนตุลาคมชี้ว่าเฟดอาจยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินเยนญี่ปุ่นจนถึงระดับที่คาดว่าจะมีการแทรกแซง ก็เป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความผันผวนให้ตลาดการเงิน